❤ ๏เที่ยวกรีกอารยธรรมเก่าแก่บนคาบสมุทรเพโลพอนเนส ๏
‘♥เที่ยวภาค 4 อารยธรรมเก่าแก่บนคาบสมุทรเพโลพอนเนส
วันนี้เราพาทัวร์จากเอเธนส์ไปยังเมืองสำคัญบนคาบสมุทรเพโลพอนเนส (Peloponnese) ซึ่งอยู่ห้อยเป็นติ่งใหญ่ ๆ ตอนปลายคาบสมุทรบอลข่าน คาบสมุทรแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญ ๆ ในยุคกรีซโบราณเป็นเวลานับพันปีก่อนที่เอเธนส์จะรุ่งเรืองเสียอีก
ให้ดูรูปจากแผนที่ก่อน หาเจอไหม??
คาบสมุทรเพโลพอนเนสถูกตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่ของกรีซด้วยคลองโครินธ์ (Isthmus of Corinth) ซึ่งเป็นคลองที่ขุดขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ มีความยาว 6.3 กิโลเมตร ในอดีตเรือที่จะวิ่งรอบคาบสมุทรเพโลพอนเนสต้องแล่นอ้อมเป็นระยะทางไกลมาก ได้มีความพยายามจะขุดคลองนี้ตั้งแต่สมัยกรีซโบราณ แต่ไม่สำเร็จเพราะวิทยาการความรู้ไม่เพียงพอ จนกระทั่งสามารถทำได้เป็นผลสำเร็จลงในปี ค.ศ.1893 ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ หลังจากขุดคลองนี้เสร็จ มีผลทำให้คาบสมุทรเพโลพอนเนสกลายเป็นเกาะที่มีน้ำล้อมรอบทุกด้านอย่าง สมบูรณ์
เมืองโบราณไมซินี (Mycenae) หรือออกเสียงแบบกรีกว่าไมคิเน่ เมืองนี้มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน มีหลักฐานการตั้งรกรากของผู้คนกว่าสองพันปีก่อนคริสตกาลในยุคบรอนซ์ จนเกิดเป็นชุมชนใหญ่ขึ้น เมืองนี้มีความเก่าแก่ (ยิ่งกว่าเอเธนส์หรือเมืองอื่น ๆ ) ในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสตกาล ถึงศตวรรษที่ 12 ก่อนคริสตกาล อาจกล่าวได้ว่าเป็นเมืองนี้แหล่งกำเนิดของอารยธรรมตะวันตกเลยทีเดียว และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้ในปี ค.ศ.1999
จุดที่สำคัญจุดหนึ่งก็คือประตูสิงโต (Lion Gate) เหนือประตูจะเป็นแผ่นหินรูปสามเหลี่ยมเพื่อรองรับน้ำหนักของก้อนหินตอนบนและ แกะสลักเป็นรูปสิงโตสองตัวหันหน้าเข้าหากัน
เราอาจติดตามร่องรอยอารยธรรมและความเจริญของไมซินีได้จากมหากาพย์อิเลียด (Iliad) และโอดิสซี (Odyssey) ของโฮเมอร์ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรกรีกที่ทำสงครามกับเมืองทรอยจนเป็นเรื่อง ราวอันยิ่งใหญ่ ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของชาวทรอย (ปัจจุบันทรอยเป็นเพียงซากปรักหักพังอยู่ในประเทศตุรกี)
ภาพที่เห็นคือสุสานของจักรพรรดิอากาเมมนอนผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรไมซินี
โรงละคร (theatre) แห่งเมือง เอพิดอรัส (Epidaurus) มีความสวยงามทั้งในแง่ของสมมาตรและรูปร่างที่ได้สัดส่วน เดิมทีชาวกรีกสร้างที่นั่งไว้ 34 ขั้น ต่อมาชาวโรมันได้ต่อเติมให้สูงเพิ่มขึ้นไปอีก 21 ขั้น สิ่งที่น่าอัศจรรย์ของโรงละครแห่งนี้คืดเรื่องของอคูสติกที่ดีมาก ๆ ถ้านักร้องหรือนักแสดงยืนอยู่ ณ จุดตรงกลางบริเวณลานแสดงแล้วร้องหรือพูดด้วยเสียงปกติโดยไม่ต้องใช้เครื่อง ขยาย ผู้ชมบนอัฒจรรย์ที่อยู่สูงแค่ไหนก็ตามจะได้ยินเสียงอย่างชัดเจน แต่ถ้านักแสดงขยับห่างออกมาจากจุดตรงกลางลานเพียง 1-2 เมตร ผู้ชมที่นั่งอยู่แถวที่สิบอาจจะต้องเงี่ยหูฟังว่าพูดหรือร้องว่าอะไร นับเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของชาวกรีกโบราณ
ปัจจุบันโรงละครแห่งเมืองเอพิดอรัสได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเช่นเดียวกัน
ภาพถ่ายจากอากาศ
เมืองแนฟพลิออน (Nafplion) เป็นเมืองท่าริมทะเล บรรยากาศดีมาก เหมาะจะมานั่งเล่นรับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นริมทะเล เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของกรีซมาก่อนในปี ค.ศ. 1829-1834 หลังจากที่ทำสงครามประกาศเอกราชกับประเทศตุรกีเป็นผลสำเร็จ ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่กรุงเอเธนส์ด้วยเหตุผลที่ว่าเอเธนส์เคย เป็นเมืองที่รุ่งเรืองมาแต่อดีตกาล อย่างที่เคยกล่าวแล้วว่าประวัติศาสตร์ของกรุงเอเธนส์หายไปเกือบสองพันปี เพราะหลังจากที่เสื่อมสลายลงก็กลายเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ จนเพิ่งจะมีบทบาทสำคัญในการเป็นเมืองหลวงอีกครั้งเมื่อไม่ถึง 200 ปีที่ผ่านมา
เมืองแนฟพลิออนมีป้อมปราการอยู่บนยอดเขาสูงกลางเมือง และจุดที่น่าสนใจก็คือเมืองน่ารัก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลมากกว่า
เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เกียวพันกันของกรีซและตุรกี หลังจากที่กรีซถูกโรมันปกครอง ดินแดนที่อยู่บนคาบสมุทรบอลข่านที่เป็นประเทศกรีซในปัจจุบันก็เสื่อมสลายลง ไป ภายหลังที่โรมันแยกออกเป็นอาณาจักรโรมันตะวันออกและโรมันตะวันตก อาณาจักโรมันตะวันออกมีศูนย์กลางที่กรุงคอนแสตนติโนเปิล ซึ่งคือกรุงอิสตันบุลในปัจจุบัน รับภาษากรีกเป็นภาษาประจำชาติ (ขณะที่โรมันตะวันตกใช้ภาษาลาติน) และรับวัฒนธรรมกรีกเป็นวัฒนธรรมของตน เรียกอาณาจักรที่สร้างใหม่นี้ว่าอาณาจักรไบแซนไทน์ (Byzantine) มีอาณาเขตกว้างขวางครอบคลุมประเทศตุรกีและเอเชียไมเนอร์ และมีความรุ่งเรืองถึงขีดสุดในคริสตศตวรรษที่ 11-12
อาณาจักรไบแซนไทน์ถูกชนเผ่าออตโตมันตีแตกและกรุงคอนแสตนติโนเปิลก็ล่มสลายลง ในวันที่ 29 พฤษภาคม 1453 กลายมาเป็นเมืองอิสตันบุลในปัจจุบัน หลังจากนั้นประเทศกรีซก็ไม่เคยปรากฏบนแผนที่โลกจนกระทั่งมีความพยายามเรียก ร้องอิสรภาพจากตุรกีในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มีการทำสงครามนองเลือดบนคาบสมุทรกรีซและตามที่ต่าง ๆ จนกระทั่งได้ทำสนธิสัญญาสงบศึกและให้กรีซเป็นเอกราชในที่สุด
ที่สุดปลายอีกด้านหนึ่งของคาบสมุทรเพโลพอนเนสเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณ โอลิมเปีย (Olympia) ที่แห่งนี้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณ ซึ่งจัดขึ้นทุก 4 ปี เริ่มมีการแข่งขันตั้งแต่ปี 776 ก่อนคริสตกาลเรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ. 393 เมืองต่าง ๆ จะส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน รางวัลสำหรับผู้ชนะก็คือ ช่อมะกอกไว้สวมศีรษะ (น่าตื่นเต้นมะ) ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งเกี่ยรติยศสำหรับผู้ชนะ
ที่เมืองนี้เป็นที่ตั้งของวิหารแห่งเทพซูส (Temple of Zeus) ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือแต่ซาก
ในการแข่งขันโอลิมปิกยุคปัจจุบันก่อนเริ่มการแข่งขันทุกครั้ง จะต้องเริ่มต้นจุดไฟคบเพลิงด้วยแสงอาทิตย์จากกระจกโค้งรูปพาราโบลา ณ ที่ตั้งของสนามแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณที่เมืองโอลิมเปียทุกครั้ง จากนั้นจะส่งคบเพลิงต่อโดยผ่านไปยังประเทศต่าง ๆ จนถึงประเทศที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขัน
♥ ภาค 4 อารยธรรมเก่าแก่บนคาบสมุทรเพโลพอนเนส
bigthank credit : http://cherokee.exteen.com/20080716/entry